ทำความเข้าใจอาการปวดน่องและตะคริว

อาการปวดน่องสามารถเกิดขึ้นได้จากหลายรูปแบบ ตั้งแต่การปวดเมื่อยล้าธรรมดาไปจนถึงการปวดแปลบอย่างรุนแรง โดยหนึ่งในรูปแบบที่พบบ่อยที่สุดคือ “ตะคริว” (Muscle Cramps) ซึ่งเป็นการหดเกร็งตัวของกล้ามเนื้ออย่างรุนแรงและฉับพลัน ทำให้กล้ามเนื้อมัดนั้นแข็งเป็นก้อนและมีอาการปวดอย่างมาก ซึ่งมักเกิดขึ้นที่กล้ามเนื้อน่อง แต่ก็สามารถเกิดกับส่วนอื่นๆ ของร่างกายได้เช่นกัน

อาการปวดเหล่านี้อาจเกิดขึ้นเพียงชั่วครู่แล้วหายไป หรืออาจเป็นอาการปวดเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อเนื่อง การทำความเข้าใจถึงสาเหตุที่แท้จริงจึงเป็นก้าวแรกที่สำคัญที่สุดในการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี


เจาะลึก! สาเหตุตะคริวและอาการปวดน่อง เกิดจากอะไรกันแน่?

อาการ ปวดน่อง ไม่ได้เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มาที่ไป แต่มีปัจจัยกระตุ้นได้หลากหลาย การทราบถึง สาเหตุตะคริว จะช่วยให้เราสามารถหลีกเลี่ยงและป้องกันได้อย่างตรงจุด โดยสาเหตุหลักๆ มีดังนี้

1. การใช้งานกล้ามเนื้อที่ไม่สมดุล

  • ใช้งานมากเกินไป (Overuse): การออกกำลังกายที่หักโหมเกินไป การวิ่งระยะไกล การเดินขึ้น-ลงบันไดบ่อยๆ หรือการฝึกซ้อมกีฬาอย่างหนักโดยไม่มีการพักผ่อนที่เพียงพอ ทำให้กล้ามเนื้อน่องเกิดความเมื่อยล้าสะสมและเสี่ยงต่อการเกิดตะคริวได้ง่าย
  • ใช้งานน้อยเกินไป (Underuse): ในทางกลับกัน การนั่งหรือยืนในท่าเดิมเป็นเวลานานๆ โดยไม่มีการขยับเขยื้อน ทำให้การไหลเวียนเลือดไปยังกล้ามเนื้อลดลง เมื่อมีการเคลื่อนไหวอย่างกะทันหันจึงอาจทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งได้

2. ภาวะขาดน้ำและสมดุลเกลือแร่ผิดปกติ

ร่างกายของเราต้องการน้ำและแร่ธาตุที่สำคัญ (Electrolytes) เพื่อควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อ การสูญเสียเหงื่อปริมาณมากจากการออกกำลังกายหรืออยู่ในที่อากาศร้อน และการดื่มน้ำไม่เพียงพอ สามารถนำไปสู่ภาวะไม่สมดุลของแร่ธาตุเหล่านี้ได้

  • โพแทสเซียม (Potassium): มีหน้าที่สำคัญในการส่งสัญญาณประสาทและควบคุมการหดตัวของกล้ามเนื้อ
  • แมกนีเซียม (Magnesium): ช่วยในกระบวนการคลายตัวของกล้ามเนื้อ
  • แคลเซียม (Calcium): เกี่ยวข้องโดยตรงกับการหดตัวของกล้ามเนื้อ การขาดแร่ธาตุตัวใดตัวหนึ่งไปอาจเป็น สาเหตุตะคริว ที่หลายคนคาดไม่ถึง

3. การไหลเวียนโลหิตที่ไม่ดีพอ

เมื่อการไหลเวียนของเลือดไปยังบริเวณขาและน่องไม่สะดวก อาจทำให้กล้ามเนื้อไม่ได้รับออกซิเจนและสารอาหารเพียงพอ ส่งผลให้เกิดอาการปวดและเป็นตะคริวได้ง่ายขึ้น ซึ่งมักพบในผู้ที่มีภาวะหลอดเลือดแดงส่วนปลายตีบ (Peripheral Artery Disease) หรือผู้ที่นั่งไขว่ห้างเป็นประจำ

4. ปัญหาจากระบบประสาทหรือโรคประจำตัว

ในบางกรณี อาการปวดอาจมีต้นตอมาจากระบบประสาท เช่น ภาวะหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทที่หลัง ซึ่งส่งผลให้เกิดอาการปวดร้าวลงมาที่ขาและน่องได้ นอกจากนี้ โรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคเบาหวาน โรคไต หรือภาวะไทรอยด์ฮอร์โมนต่ำ ก็สามารถส่งผลให้เกิดตะคริวได้บ่อยกว่าปกติเช่นกัน


กลุ่มเสี่ยงที่ควรใส่ใจอาการปวดน่องเป็นพิเศษ

  • นักกีฬาและผู้ออกกำลังกายเป็นประจำ: มีการใช้กล้ามเนื้อซ้ำๆ และเสี่ยงต่อการเสียเหงื่อมาก
  • พนักงานออฟฟิศและผู้ที่ต้องยืนนานๆ: อยู่ในอิริยาบถเดิมเป็นเวลานาน ทำให้เลือดไหลเวียนไม่สะดวก
  • หญิงตั้งครรภ์: การเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน น้ำหนักตัวที่เพิ่มขึ้น และแรงกดทับต่อเส้นเลือดและเส้นประสาท
  • ผู้สูงอายุ: มวลกล้ามเนื้อที่ลดลงตามวัยและการไหลเวียนเลือดที่อาจไม่ดีเท่าเดิม
  • ผู้ที่มีโรคประจำตัว: ดังที่กล่าวไปข้างต้น

วิธีแก้ตะคริวและบรรเทาอาการปวดน่องฉบับเร่งด่วน

เมื่ออาการปวดเฉียบพลันหรือตะคริวมาเยือน การปฐมพยาบาลที่ถูกต้องจะช่วยลดความเจ็บปวดลงได้อย่างรวดเร็ว นี่คือ วิธีแก้ตะคริว ที่คุณสามารถทำได้ทันที

  1. ยืดกล้ามเนื้อทันที: หากเป็นตะคริวที่น่อง ให้เหยียดขาให้ตรง แล้วค่อยๆ กระดกปลายเท้าเข้าหาตัวช้าๆ ค้างไว้ประมาณ 15-30 วินาทีจนรู้สึกว่ากล้ามเนื้อเริ่มคลายตัว หรืออาจจะลองลุกขึ้นยืนแล้วทิ้งน้ำหนักลงบนขาข้างที่เป็นตะคริวเบาๆ
  2. นวดคลึงเบาๆ: ใช้มือค่อยๆ นวดคลึงบริเวณที่เป็นก้อนแข็งเพื่อช่วยให้กล้ามเนื้อผ่อนคลายและกระตุ้นการไหลเวียนเลือด
  3. ประคบร้อนหรือเย็น:
    • ประคบเย็น: เหมาะสำหรับอาการปวดที่เกิดจากการบาดเจ็บหรืออักเสบเฉียบพลันใน 24-48 ชั่วโมงแรก ความเย็นจะช่วยลดบวมและอาการปวด
    • ประคบร้อน: หลังจาก 48 ชั่วโมง หรือเมื่อมีอาการปวดตึงจากกล้ามเนื้อล้า ความร้อนจะช่วยให้เลือดไหลเวียนดีขึ้นและกล้ามเนื้อคลายตัวได้ดี

3 ท่ายืดแก้ปวดน่อง ป้องกันตะคริว ทำได้เองที่บ้าน

การยืดกล้ามเนื้อเป็นประจำคือหัวใจสำคัญของการป้องกันและลดอาการ ปวดน่อง ได้อย่างยั่งยืน ลองทำ ท่ายืดแก้ปวดน่อง เหล่านี้เป็นประจำทุกวัน

ท่าที่ 1: ท่ายืดน่องกับกำแพง (Gastrocnemius Stretch)

  • ยืนหันหน้าเข้าหากำแพง วางฝ่ามือทั้งสองข้างบนกำแพงระดับอก
  • ก้าวขาข้างหนึ่งไปข้างหลังให้ไกลพอสมควร โดยให้ส้นเท้าหลังติดพื้นและขาเหยียดตรง ส่วนขาหน้างอเข่าเล็กน้อย
  • ค่อยๆ โน้มตัวเข้าหากำแพงจนรู้สึกตึงที่น่องของขาหลัง
  • ค้างไว้ 30 วินาที แล้วสลับข้าง ทำซ้ำข้างละ 3-4 ครั้ง

ท่าที่ 2: ท่ายืดเอ็นร้อยหวายและน่องส่วนลึก (Soleus Stretch)

  • เริ่มต้นในท่าเดียวกับท่าแรก แต่ให้เลื่อนขาหลังเข้ามาใกล้ขึ้นเล็กน้อย
  • งอเข่าทั้งสองข้างพร้อมกับกดส้นเท้าหลังให้ติดพื้น คุณจะรู้สึกตึงบริเวณน่องส่วนล่างและเอ็นร้อยหวาย
  • ค้างไว้ 30 วินาที แล้วสลับข้าง ทำซ้ำข้างละ 3-4 ครั้ง นี่เป็น ท่ายืดแก้ปวดน่อง ที่เน้นกล้ามเนื้อคนละมัดกับท่าแรก

ท่าที่ 3: ท่ายืดน่องแบบนั่ง (Seated Calf Stretch)

  • นั่งบนพื้น เหยียดขาข้างหนึ่งไปข้างหน้าตรงๆ
  • ใช้ผ้าขนหนูหรือยางยืดคล้องที่ปลายเท้า แล้วค่อยๆ ดึงผ้าเข้าหาตัวจนรู้สึกตึงที่น่อง พยายามให้หลังตรงเข้าไว้
  • ค้างไว้ 30 วินาที แล้วสลับข้าง ทำซ้ำข้างละ 3-4 ครั้ง

แนวทางการป้องกันไม่ให้อาการปวดน่องกลับมาเป็นซ้ำ

การรักษาที่ดีที่สุดคือการป้องกัน การปรับพฤติกรรมบางอย่างสามารถลดความเสี่ยงของการเกิด ปวดน่อง และตะคริวได้อย่างมีนัยสำคัญ

  • ดื่มน้ำให้เพียงพอ: ควรดื่มน้ำเปล่าให้ได้ 8-10 แก้วต่อวัน หรือมากกว่านั้นหากต้องเสียเหงื่อมาก
  • ทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นผักใบเขียว (แมกนีเซียม), กล้วย (โพแทสเซียม), นมและปลาเล็กปลาน้อย (แคลเซียม) เพื่อป้องกัน สาเหตุตะคริว จากการขาดแร่ธาตุ
  • วอร์มอัพและคูลดาวน์เสมอ: ก่อนและหลังออกกำลังกาย ควรมีการยืดเหยียดกล้ามเนื้ออย่างน้อย 5-10 นาที
  • เลือกรองเท้าที่เหมาะสม: รองเท้าควรมีพื้นรองรับสรีระเท้าได้ดี ไม่บีบรัดจนเกินไป
  • ปรับเปลี่ยนอิริยาบถ: หากต้องนั่งหรือยืนนานๆ ควรหาเวลาขยับร่างกาย ยืดเส้นยืดสาย หรือเดินสลับบ้างทุกๆ ชั่วโมง

สัญญาณอันตราย! เมื่อไหร่ที่อาการปวดน่องควรไปพบแพทย์

แม้ว่าอาการปวดน่องและตะคริวส่วนใหญ่จะไม่อันตรายและหายได้เอง แต่หากคุณมีอาการเหล่านี้ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยอย่างละเอียด

  • อาการปวดรุนแรงมาก ไม่ดีขึ้นหลังจากการดูแลเบื้องต้น
  • มีอาการบวม แดง หรือรู้สึกร้อนที่บริเวณน่อง
  • ผิวหนังบริเวณน่องเปลี่ยนสีหรือซีดลง
  • มีอาการชา อ่อนแรง หรือรู้สึกเย็นผิดปกติที่ขาหรือเท้า
  • เป็นตะคริวบ่อยครั้งและรุนแรงขึ้นโดยไม่ทราบสาเหตุ
  • สงสัยว่าอาจเป็นอาการของภาวะลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำ (Deep Vein Thrombosis – DVT) ซึ่งมักมีอาการปวด บวม แดง และร้อนที่ขาเพียงข้างเดียว

บทสรุป

อาการ ปวดน่อง และตะคริว แม้จะเป็นเรื่องที่พบได้บ่อย แต่ก็ไม่ควรถูกละเลย การทำความเข้าใจถึง สาเหตุตะคริว ตั้งแต่การใช้งานกล้ามเนื้อไปจนถึงภาวะขาดสารอาหาร จะช่วยให้เราป้องกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ การเรียนรู้ วิธีแก้ตะคริว เบื้องต้นและการทำ ท่ายืดแก้ปวดน่อง เป็นประจำ คือเครื่องมือสำคัญในการดูแลตัวเอง อย่างไรก็ตาม การสังเกตสัญญาณอันตรายและปรึกษาแพทย์เมื่อมีอาการผิดปกติคือสิ่งจำเป็นที่สุด เพื่อให้แน่ใจว่าอาการปวดนั้นไม่ได้มาจากโรคร้ายแรงที่ซ่อนอยู่ และกลับมาเคลื่อนไหวได้อย่างมั่นใจอีกครั้ง

Shopping Cart
Scroll to Top